jaisabay

jaisabay

กำลังใจ

เราไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวขอกำลังใจจากใครเลย กำลังใจมากมาย มหาศาลอยู่ในตัวเรา ไปเบิกกันมาใช้บ้าง ไม่ต้องเขียมๆใช้  กำลังใจนี่แปลก ยิ่งใช้ ยิ่งมี ยิ่งเยอะ

เรามีสิทธิ์เข้าถึงธรรมได้

เรามีชีวิตอยู่ไปวันต่อวัน เรามีสิทธิ์ตายได้ทุกวัน คือ ถ้าหายใจเข้าแล้ว ไม่ออกก็ตาย หายใจออกแล้วไม่เข้าก็ตาย หายใจแล้วไม่เข้าไม่ออกก็ตาย เราตายได้ตลอดเวลานะ อย่าไปกลัว กลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย ฉะนั้นยอมรับเถิดว่า เรามีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ฟังแล้วไม่ใช่ทำให้เฉาชีวิตนะ มันควรจะฉ่ำชีวิต ด้วยซ้ำไป เพราะเราก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรมได้ทุกวันเช่นเดียวกัน เรามีสิทธิ์เข้าถึงธรรมได้ทุกวัน ถ้าเราทำก็เข้าถึง ถ้าเราไม่ทำก็ไม่เข้าถึง ขึ้นอยู่กับ ทำ หรือ ไม่ทำ ขยันหรือขี้เกียจแค่นั้น

คนเราเกิดมาทำไม

เรามาบวชเป็นพระภิกษุสามเณร เพราะเราเห็นภัยในวัฏสงสาร ซึ่งน้อยคนในโลกที่จะเห็น แต่ผู้รู้ท่านเห็น เมื่อเห็นแล้วด้วยมหากรุณาจึงได้นำมาสั่งสอนว่า มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ต้องมาสร้างบารมีนะ โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดคือต้องทำพระนิพพานให้แจ้ง ตรงนี้เป็นหลักสำคัญเลย

โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

เราเกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องถือว่าโชคดีมาก ๆ เพราะเป็นกายที่เหมาะสมที่จะได้ศึกษาความรู้อันยิ่งใหญ่ของชีวิต และทำตัวของเราให้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดได้ สำหรับผู้รู้เมื่อท่านบังเกิดขึ้นแล้ว ท่านเข้าใจแจ่มแจ้งในชีวิตของสังสารวัฏเลยว่า ชีวิตในสังสารวัฏนี้เป็นชีวิตที่มีทุกข์มีภัยมาก เพราะท่านเห็นตลอดหมดเลยใน ๓๑ ภูมิ เห็นด้วยธรรมจักษุและญาณทัสนะอันบริสุทธิ์ของท่าน

สุขในชีวิตสมณะ

ชีวิตสมณะ ถ้าใช้ชีวิตด้วยการหยุดกับนิ่ง คือ ทำอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอน ให้ระวังรักษาจิตดวงเดียว ไม่ต้องไปคิดเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ เอาใจหยุดนิ่ง ๆ สบาย ๆ ภายใน มันมีความสุขนะ แล้วมีเรื่องที่น่าศึกษา ทุกขั้นตอนที่ผ่านไปมันมีความสุข มีทั้งความรู้ มีทั้งความสุข ใจก็เบิกบานอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเอาปิ่นโตที่ใส่อาหารมา เราเปิดฝาชั้นแรกว่าอร่อยแล้ว พอยกไปชั้นที่ ๒ อร่อยกว่านั้นเข้าไปอีก ชั้น ๓ ชั้น ๔ ชั้น ๕ เป็นเถา ๆ ยาวเหยียดไปเลย วันนี้หยุดได้แค่นี้ว่าอร่อยแล้ว หยุดหนักเข้าไปอีก หยุดในหยุด อร่อยกว่าเดิมเข้าไปอีกเรื่อย ๆ เลย ๑๗…

 อย่าหายใจฟรี

มาอยู่กับหลวงพ่อแล้ว อย่าให้หายใจฟรี ให้ได้อะไรกลับไปบ้าง ให้รู้เรื่องราวของเราไปบ้างหลวงพ่อพยายามหาวิธีที่จะบำรุงสังขาร ขันธ์ ๕ ของลูกทุกคน อาหาร ปัจจัย ๔ สิ่งของจำเป็นต่าง ๆ หวังเพียงให้ลูกทุกคนสนใจการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง วันคืนล่วงไป ๆ จะได้ไม่สูญไปเปล่า นะลูกนะ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2544

นิพพานเป็นเยี่ยม

ดูชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง พระองค์ผ่านชีวิตทุกระดับมาแล้ว แม้แต่การเกิดในอบายภูมิก็เคยเกิด ในสุคติภูมิก็เกิด เป็นมนุษย์ก็เป็นมาทุกระดับ ตั้งแต่พระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ พระราชาธรรมดา พระราชาประเทศราช มหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่ กระทั่งเป็นมหาเศรษฐีธรรมดา ไล่เรื่อยมาถึงยาจก วณิพก เคยเป็นมาหมดแล้ว ท่านก็สรุปชีวิตของท่านว่า ไม่มีอะไรที่ยิ่งกว่าพระนิพพาน ควรแสวงหานิพพานอันเป็นเยี่ยม จึงได้สละทรัพย์ทุกอย่าง อวัยวะ แม้กระทั่งชีวิต เพื่อที่จะให้เข้าถึงธรรมภายใน เข้าถึงดวงธรรม เข้าถึงกายในกายภายใน เข้าถึงความจริงของชีวิต นี่เราดูท่านเป็นตัวอย่าง นะลูกนะ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2544

ชีวิตที่ดีที่สุด

หลวงพ่อขอยืนยันว่า ชีวิตพระเป็นชีวิตที่ดีที่สุด เหมาะสมกับชาวโลกที่สุดเลย เพราะเป็นชีวิตที่ปลอดกังวล มีเวลาสำหรับแสวงหาความรู้ภายในที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย มีไว้สำหรับแสวงหาความสุข ที่มีมากกว่าความสุขด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ อย่างที่มนุษย์เข้าใจ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2544

ที่พึ่งในวันสุดท้ายของชีวิต

ในวันสุดท้ายของชีวิต ตอนช่วงนั้นร่างกายเราจะอ่อนแอ ก่อนละโลกจะมีภาพประวัติศาสตร์ชีวิตของเรา เป็นบทสรุปงบดุลชีวิตเกิดขึ้นให้ดูเป็นกรรมนิมิต ซึ่งจะไปโยงกับคตินิมิต ถ้าหากเราฝึกใจหยุดนิ่งจนคุ้น เข้าถึงแสงสว่าง ดวงธรรม กายภายใน หรือองค์พระ พอถึงตอนนั้นเราก็จะมีแต่ภาพดี ๆ ให้ดู ทำให้จิตใจผ่องใส กรรมนิมิตใสสว่าง ทำให้คตินิมิตสว่างไสวชัดเจน ใจเราจะเบิกบานจนไม่มีความรู้สึกว่า กลัวตายหรือไม่กลัวตาย แล้วจะมีอีกอารมณ์หนึ่งคือ ความสุข ปีติ ปลื้มใจ แล้วก็มั่นคงอยู่ตรงนั้น อาการภายนอกของร่างกายจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของร่างกาย แต่ภายในใจจะเยือกเย็น สงบนิ่ง ตั้งมั่น และมีความสุข ถ้าฝึกใจบ่อย ๆ แม้อาการภายนอกก็ไม่มี และที่สำคัญจะมีสุคติเป็นที่ไป 24 ธันวาคม พ.ศ. 2549

ป่วยอย่างสง่างาม

เมื่อยามเจ็บป่วย ต้องทำใจให้เบิกบาน ให้อยู่เหนือความทุกข์ เหนือความวิตกกังวล ให้อยู่ในบุญ แล้วก็ทำใจให้หยุด นิ่ง เฉย ที่ศูนย์กลางกาย ถ้าได้ดวงธรรม เราก็ตรึกในกลางดวงธรรม ถ้าได้กายภายใน เราก็ตรึกในกลางกายภายใน ถ้าได้องค์พระ เราก็ตรึกในกลางองค์พระ ถ้ายังไม่ได้อะไรก็ภาวนา “สัมมา อะระหัง” เรื่อยไป ใจนิ่งอยู่ตรงกลางตรงนั้น นึกอาราธนาพระนิพพาน พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระอริยบุคคลทั้งหลาย ให้ลงมาปกปักรักษาเรา อธิษฐานให้หายเจ็บ หายป่วย หายไข้ขจัดสิ่งที่ไม่ดีภายในร่างกายให้หมดสิ้นไป ให้หลงเหลือแต่สิ่งที่ดี ๆ แล้วก็ทำใจให้ใส ๆ สบาย ๆ เบิกบาน แช่มชื่น ราวกับผู้นิรทุกข์ ไม่เคยเจ็บป่วยเลย หากทำได้อย่างนี้ ไม่ช้าเราจะเข้าถึงธรรม จะเป็นคนป่วยที่…